– ปี 2549 อาจารย์ชยานันท์ มโนเกษมสุข ได้จัดตั้งโรงเรียนกวดวิชาขนาดเล็ก โดยการรวมกลุ่มผู้สอนที่มีศักยภาพด้านการสอนจากคณะต่างๆในมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเรียกการรวมตัวในครั้งนั้นว่าทีมงาน “พี่มหิดลติวเตอร์” โดยเริ่มเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ในระดับชั้นประถม – มัธยมปลาย ให้กับน้อง ๆ ที่อาศัยอยู่ในย่านพุทธมณฑลสาย 4 และละแวกใกล้เคียงเพื่อเพิ่มโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยมหิดลและ รร.มหิดลวิทยานุสรณ์
จากความทุ่มเท ความใส่ใจและความจริงใจของทีมงานทุกคนที่มีเสมอมา ส่งผลให้ผู้ปกครองต่างชื่นชมและประทับใจ ในผลงานซึ่งเห็นได้จากความสำเร็จของนักเรียนที่สามารถสอบแข่งขันเข้าสู่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงต่างๆ รวมทั้งมหาวิทยาลัยชั้นนำได้เป็นจำนวนมาก จนเป็นที่กล่าวขานกันแบบปากต่อปาก แม้ว่าในเวลานั้นโรงเรียนไม่ได้ใช้การโฆษณาอย่างจริงจัง แต่การตอบรับที่สืบเนื่องมาจากผลงานนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีมาก จนทำให้จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกๆเทอม
– ปี2552เพื่อรองรับจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น โรงเรียนฯขยายตัวครั้งแรกสู่สาขาที่ 2 โดยเพิ่มจำนวนและขนาดห้องเรียนเป็น 16 ห้องเรียน รองรับนักเรียนได้ถึงวันละ 500 คน ต่อวัน นอกจากนั้นยังเพิ่มและพัฒนาทีมผู้สอนให้คุณภาพสูงขึ้น โดยมีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 80 คน
– ในปีเดียวกันโรงเรียนได้เปิดคอร์ส“ขั้นเทพ” สำหรับน้องๆ ที่สนใจสอบเข้าโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์โดยสอนแบบแบ่งกลุ่มผู้เรียนเป็นสำคัญ พร้อมทั้งวางแผนสร้างแนวทางให้ผู้เรียน โดยคอร์สนี้ครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ ม.1 – 3 และแนวข้อสอบย้อนหลังรวม 10 ปี โดยคัดเลือกข้อสอบ ด้วยการบันทึกสถิติว่าข้อสอบแนวใดมักออกซ้ำๆสม่ำเสมอ
เราจึงกล้าฟันธงและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการติวเข้ามหิดลวิทยานุสรณ์ไปโดยปริยาย จากความตั้งใจในการสร้างคอร์สนี้ทำให้อัตรานักเรียนที่สอบแข่งขันจำนวนมากกว่าสองหมื่นคน คิดเป็นสัดส่วนการรับนักเรียนคือ 1:100 นั้น เราได้ทุ่มเทในการสอนและสร้างโอกาสให้นักเรียนสามารถสอบติดสูงกว่า 1 ใน 5 ดังนั้นโอกาสที่สอบติดจึงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทุกปี
– ในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน โรงเรียนได้ขยายโอกาสด้านการสอบเข้าให้แก่นักเรียนระดับชั้น ม.ปลาย ให้เพิ่มมากขึ้นโดยการเปิดคอร์ส “เก็บกระเป๋าเข้ามหาวิทยาลัย” โดยติวคอร์สระยะยาวทุกเทอมตลอด 1 ปี โดยวางแผนโครงสร้างไว้ตั้งแต่นักเรียนยังเรียนอยู่ชั้น ม.5 และจากแผนการสอบเข้าดังกล่าวนี้เองทางโรงเรียนยังได้จัดโครงการติวระยะสั้น “โครงการเตรียมเก็บกระเป๋าเข้ามหาวิทยาลัย” ใช้เวลา 1-2 วัน
โดยใช้สถานที่หอประชุมในมหาวิทยาลัยมหิดลและมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศเป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนของทุกๆปี เพื่อกระตุ้นให้น้องมัธยมปลายทั่วทั้งประเทศ ได้มีโอกาสเตรียมตัวก่อนสอบและมีความมั่นใจก่อนสอบ เพราะเรามีการสอนและแนะแนวทางในการทำข้อสอบเพื่อติวเข้าตรงของมหาวิทยาลัยต่างๆอย่างตรงประเด็น จากความพยายามและความมุ่งมั่นที่ดีของเราเสมอมาทำให้เราสามารถผลักดันให้นักเรียนได้เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำได้แล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
– ในเดือนตุลาคม 53 โรงเรียนได้เปิดสาขา 3 โดยได้ขยายพื้นที่และเพิ่มจำนวนนักเรียนให้มากขึ้น โดยปรับห้องเรียนทุกห้องให้มีขนาดใหญ่ มีที่พักของผู้ปกครองและนักเรียนให้โอ่โถง สะดวกสบายมากขึ้น และให้ทุกห้องเรียนได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Smart Board/ Visualizer/ จอ Projector และจอ LCDขนาดใหญ่ เป็นต้น เพื่อเน้นคุณภาพของสื่อการสอนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เป็นจำนวนทั้งสิ้น 7 ห้องเรียน รวมถึงสื่อ MU Blog ให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อสามารถรองรับนักเรียนได้มากกว่า 1,300 คน/วัน เพื่อตอบสนองตามความต้องการของผู้ปกครองและนักเรียนที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกๆ เทอม อีกทั้งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “พี่ม.มหิดลติวเตอร์” เพื่อให้สอดคล้องกับความหมายของการร่วมมือร่วมใจกันของบัณฑิต และทีมงานทุกคนที่จบมาจากมหาวิทยาลัยมหิดล
ปัจจุบัน MU TUTOR ได้พัฒนาการสอนและระบบต่างๆให้สอดคล้องกับรูปแบบแฟรนไชส์ โดยการบันทึกการสอนสด อัดลงเป็นไฟล์พร้อมตัดต่อและเพิ่มภาพกราฟฟิค ที่เข้าใจง่าย ชวนติดตาม เหมาะสมกับผู้ที่สนใจในการเรียนเสริมและสอบแข่งขันทุกสนามสอบ รวมถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับการควบคุมคุณภาพการสอนและเนื้อหาของสำนักงานใหญ่และกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งไฟล์ได้บรรจุอยู่ในระบบ MU TUTOR Innovative System By MU TUTOR (ระบบ MIS เอกสิทธิ์เฉพาะหนึ่งเดียวของเรา) ซึ่งระบบได้เอื้อต่อการบริหารจัดการภายในสาขาทั้งหมดและช่วยในการเปิดไฟล์การสอน
สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
โรงเรียนฯ เห็นความสำคัญของการใช้โสตทัศนูปกรณ์เพื่อช่วยสอน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสอนต่างๆ เช่น โปสเตอร์ แผนที่ สไลด์ Internet DVD เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ Visualizer / จอ LCD / Smart Board/ และระบบแสง สี เสียง เป็นต้น
#เอ็มยูติวเตอร์ #โรงเรียนกวดวิชา #มหิดลติวเตอร์ #สื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
การลงทุน ค่าแฟรนไชส์ 149,000 บาท/ปี
ระยะเวลาสัญญา 6-10 ปี
สิ่งที่ได้รับ
ระบบการจัดการเรียนการสอนประกอบด้วนการทำงานหลักๆอยู่ทั้งสิ้น 11 ด้าน ดังนี้
1.ระบบฐานข้อมูลนักเรียน
ส่วนนี้ช่วยด้านการเก็บประวัติของนักเรียน รองรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น ผลการเรียน การเลื่อนชั้นเรียน การย้ายโรงเรียน ข้อมูลผู้ปกครอง เพื่อที่จะนำข้อมูลนี้มาใช้ในการประชาสัมพันธ์และการจัดกลุ่มการเรียน
2.ระบบจัดการสมัครเรียน
ส่วนนี้เป็นระบบที่บันทึกรายวิชาที่นักเรียนแต่ละคนสมัครเรียน รวมทึกการบริหารจัดการค่าเล่าเรียน (ค่าใช้จ่ายที่ค้างจ่าย) การออกใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ต่างๆ ซึ่งจะนำข้อมูลในส่วนนี้ไปรวมไว้กับประวัตินักเรียน ระบบในส่วนนี้ถูกออกแบบรองรับการจ่ายเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร ซึ่งจะใช้ต่อไป
3.ระบบบันทึกคะแนนสอบ
ส่วนนี้เป็นอีกระบบที่สำคัญของโรงเรียน คือการบันทึกผลคะแนนสอบลงในระบบ คะแนนของนักเรียนแต่ละคนจะถูกนำไปวิเคราะห์ แล้วแบ่งกลุ่ม จัดลำดับแยกตามรายวิชา สาขา ภาค และจัดลำดับจากทุกสาขา ผู้เรียนจะรู้ว่าผลการสอบนั้นอยู่ที่เท่าใดของประเทศ ผู้เรียนจะได้ความรู้สึกถึงการสอบแข่งขันในทุกรายวิชา
4.ระบบจัดการไฟล์สื่อสารสอน
ส่วนนี้รอบรับการจัดการไฟล์การสอน ตรวจสอบเวลาจอง แล้วทำการเชื่อมต่อไฟล์สื่อการสอนเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยอัตโนมัติ ทางสาขาไม่ต้องยุ่งยากในการเปิดไฟล์ เนื่องจากข้อมูลการสมัครเรียนจะถูกบันทึกไปพร้อมเมื่อตอนผู้เรียนมาสมัครเรียน
5.ระบบการรับจอง MU I-Style
ส่วนนี้เป็นระบบการจัดการข้อมูลการเรียนของนักเรียนแต่ละบุคคล ซึ่งนักเรียนสามารถตรวจสอบเวลาเรียนและจำนวนวิชาที่เหลืออยู่ ตำแหน่งเครื่องว่าง และการล๊อคอินเข้าไปในระบบการเรียน MU I-Style
6.หน้าจอชมสื่อการสอน MU I-Style
หน้าจอ MU I-Style ถูกออกแบบให้ผู้เรียนใช้งานได้ง่ายขึ้น และไม่ระกวนสายตาผู้เรียน หน้าจอที่ออกแบบนั้นจะมีเพียงส่วนที่สำคัญในการใช้งาน เช่น ปุ่มหยุด ปุ่มเลื่อนเดินหน้าหรือถอยหลัง หน้าจอประชาสัมพันธ์และส่วนที่แจ้งผลการสอบเท่านั้น นักเรียนสามารถสื่อสารโดยตรงกับทางสำนักงานใหญ่ผ่านทางหน้าจอนี้หากมีข้อสงสัย หรือต้องการซักถามเพิ่มเติม
7.ระบบจัดการข่าวสาร MU I-Style
ส่วนนี้ช่วยให้ทางสาขาสามารถประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆได้ถึงตัวผู้เรียน ซึ่งทางสาขาสามารถกำหนดการแจ้งข่าวสารโดยแบ่งแยกตามกลุ่มอายุ ช่วงชั้น กลุ่มวิชา
ได้ทั้งสิ้น เพื่อประโยชน์ในการเข้าถึงตัวผู้เรียนได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย
8.รายงานแยกตามแต่ละสาขา
สาขาสามารถได้รับ รายงานต่างๆ ผ่านทางระบบออนไลน์ รายงานในส่วนนี้รวมไปถึง ข้อมูลผู้สมัคร ผลการสอบของนักเรียน ยอดค่าเล่าเรียนทั้งหมด ยอดค้างชำระ ยอดค่าหนังสือ และค่าใช้จ่ายอื่นๆของแต่ละสาขา
9.รายงานภาพรวม
ทางสำนักงานใหญ่ติดต่อประสานงานกับทางสาขาได้รวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านทางรายงานภาพรวมของสาขา เพื่อประโยชน์ในการออกแบบ จัดสรรตารางเรียนให้ตรงกับความต้องการของแต่ละสาขา
10.ระบบ CRM และ MARKETING
ส่วนนี้เป็นระบบที่ช่วยให้ทางสาขานำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ จำทำรายงานเพื่อสื่อสารกับผู้เรียน และผู้ปกครอง เช่นชี้ชวนให้มาเรียนเพิ่มเติมในรายวิชาที่คะแนนผลไม่ดีนัก เป็นต้น รวมถึงนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ทางการตลาดต่อไป เช่น ข้อมูลโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนมากที่สุด เป็นต้น
11.ระบบจัดการคลังหนังสือ
ระบบนี้จะช่วยให้ทางสำนักงานใหญ่ทราบข้อมูลจำนวนนักเรียนที่สมัครเรียน เพื่อเตรียมเอกสารให้เพื่อพอกับนักเรียนจากทุกสาขา แล้วจัดส่งให้ทันตามกำหนดการเปิดภาคเรียน ระบบนี้ช่วยลดระยะเวลาการจัดส่งเอกสารและลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
ระบบ MU Simulator
ระบบคลังข้อสอบเอกสิทธิ์เฉพาะนักเรียนมหิดลติวเตอร์ เป็นระบบการสอบออนไลน์ และทราบผลคะแนน ได้ทุกที่ ทุกเวลา
สนใจติดต่อ
อ.สุจิญ แก้วมณี
46/5-7 ถ.บรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170
โทร : 086-9070061
อีเมล์ : mututor@mututor.com
เว็บไซต์ : www.mututor.com
LINE : 0894994924
Facebook : www.facebook.com/teammututor